Knowledge
ทำความรู้จัก 10 ส่วนผสมหลักสกินแคร์ผิวไม่แพ้ไม่พัง ปังแน่นอน
ต.ค.
ส่วนผสมหลักๆในสกินแคร์ที่เราพบเห็นบ่อยๆมีหลากหลายชนิด จะมีอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้ผิวหน้าขาวใส ฉ่ำวาว นุ่มเด้ง อิ่มฟู แลดูสุขภาพดี ไร้ริ้วรอย สำหรับเพื่อนที่กำลังมองหาสกินแคร์ เพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลผิวหน้า ว่าแต่ละส่วนผสมแต่ละชื่อ คืออะไร ให้ประโยชน์ด้านไหน และมีข้อควรระวังอย่างไรในการเลือกให้ตอบโจทย์กับผิวของเรา
ส่วนประกอบหลักที่พบเห็นในสกินแคร์ โดยส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติต่างๆคล้ายๆกัน ความแตกต่างจะขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี และนวัตกรมที่แต่ละแบรนด์นำมาใช้หรือบางตัวอาจจะไม่พบในสกินแคร์เนื่องจากแต่ละแบรนด์ก็จะชูในเรื่องของจุดเด่นที่แตกต่งกันออกไป และยังมีเรื่องของต้นทุนในการผลิต วันนี้เรามายกตัวอย่างส่วนผสมหลักที่สามารถพบได้ในสกินแคร์ที่มาจากแบรนด์ชั้นนำตามเคาน์เตอร์แบรนด์ชั้นนำ
1.Alpha-Arbutin(อัลฟ่า อาร์บูติน)
เรียบเนียน กระจ่างใส แข็งแรง สารสกัดที่ได้จากพืชหลายชนิด ช่วยยับยั้งสร้างเม็ดสีเมลานินได้โดยตรง ที่ก่อให้เกิดการสร้างเม็ดสีผิว เป็นสารสกัดที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย สามารถใช้ต่อเนื่องในระยะยาวโดยไม่มีผลข้างเคียง
ประโยชน์
เรื่องความกระจ่างใสช่วยเรื่องการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลบเลือนจุดด่างดำ รอยแผลเป็น และความหมองคล้ำ
สิ่งที่ควรระวัง
ไม่มีผลข้างเคียง เราก็สามารถบำรุงผิวไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น วิตามินซี ครีมกันแดด หรือ ครีมบำรุงผิวอื่นๆได้ตามสะดวกค่ะ
2.Ethyl Ascorbic Acid (Vitamin C)
วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง สามารถละลายในน้ำ : ผิวกระจ่างใสแบบมีออร่า
ประโยชน์
อันนี้ทุกคนคุ้นเคยกันอยู่ไม่น้อยเลย ว่าช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ แก้ปัญหาฝ้า กระ รอยแดง รอยดำจากสิว ปกป้องฟื้นฟูผิวจากแสงแดด และสมานแผลให้หายเร็วขึ้นด้วย ไม่ว่าจะทาน หรือ ทา ครบมากเรื่องผิวเด็ก
สิ่งที่ควรระวัง
ไม่ควรใช้วิตามินซี ร่วมกับครีมที่มีส่วนผสมหลักเป็นคอลลาเจน เพราะจะทำให้ผลิตภัณฑ์จับตัวเป็นก้อนบนผิว ก็คือไม่ซึมลงผิวนั่นเอง
3.Niacinamide(Vitamin B3)
อนุพันธ์ Vitamin B3 กระตุ้นการสร้างเอนไซม์ เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว และเพิ่มเลเวลของ Ceramide เคลียร์ทุกปัญหาผิว
ประโยชน์
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับสมดุลการสร้างน้ำมันในผิว ให้ผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง ทั้งยังลดสิว แก้ปัญหารอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็น และ ริ้วรอย เปรียบเสมือนฮีโร่อินกรีเดี้ยนเลยล่ะ
สิ่งที่ควรระวัง
ไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพที่ลดลง
4.Panthenol (Vitamin B5)
เป็นสารอาหารชนิดหนึ่งในกลุ่มของวิตามินบีรวม พบในอาหารหากหลายชนิดเช่น ถั่วไ ข่ เนื้อสัตว์ ตับ หัวใจ พืชสีเขียว วิตามินชนิดนี้จะค่อนข้างสูญเสียสภาพได้ง่ายถ้าอยู่ในรูปแบบของสด จึงเน้นนำมาแปรรูปและเก็บหรือสกัดออกมาเพื่อนำไปทำเป็นส่วนผสมที่ใช้ในสกินแคร์
ประโยชน์
ช่วยให้ผิวหน้านุ่ม ปลอบประโลมผิวสุดๆ เป็นสารที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ และจะถูกเปลี่ยนเป็น Pantothenic Acid หรือ Vitamin B5 ทันที โดย Vitamin B5 มีความสำคัญมากสำหรับผิวที่ดีบรรเทาอาการคัน จากการแพ้ ลดรอยแดง ช่วยสมานแผลและเร่งการสร้างเนื้อเยื่อชั้นผิวใหม่
สิ่งที่ควรระวัง
หากใช้ในปริมาณมาก อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะบนผิว แนะนำเลือกใช้ Vitamin B5 ExtraLite™ ซึ่งผ่านกระบวนการพิเศษเพื่อลดความเหนอะหนะแก่ผิว
5.Salicylic acid
กรดชนิดหนึ่ง ที่สกัดมาได้จากเปลือกของต้นหลิวจีน (Willow) มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ
ประโยชน์
เข้าไปสลายสิ่งอุดตันและสิ่งสกปรก ช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ให้เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และ เกาะสะสมอยู่ด้านบน ค่อย ๆ หลุดออกไป ทำให้ผิวดูสุขภาพดี กระจ่างใส
สิ่งที่ควรระวัง
คนที่มีสภาพผิวแพ้ง่ายมากๆ ควรหลังเลี่ยงนะ อาจจะเกิดอาการข้างเคียงหลังใช้งาน
6.Hyaluronic acid
กรดไฮยาลูรอนิค หรือ HA เป็นสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย
ประโยชน์
หน้าที่หลักๆ จะช่วยตรึงคอลลาเจน อิลาสติน และเก็บกักน้ำคล้ายเขื่อนใต้ผิว ให้ผิวเนียนนุ่ม มีความยืดหยุ่น ริ้วรอยไม่มากวน
สิ่งที่ควรระวัง
ไม่ควรอัด HA และวิตามินซีคู่กัน จากผิวปังอาจพังได้ โดยเฉพาะสาวผิวบอบบางแพ้ง่าย
7.Ceramide
สารจำพวกไขมัน ชื่อ Sphingolipid มีอยู่ในผิวหนังชั้นนอกโดยธรรมชาติ แต่อายุมากจะลดลง: เก็บความชุ่มชื่น พร้อมปกป้องผิว
ประโยชน์
ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่น และกักเก็บน้ำใต้ผิว พร้อมปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียน้ำ จินตนาการง่ายๆ คล้ายกาวที่ยึดเซลล์ผิวทั้งหมดไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผิวมีความแข็งแรง และสุขภาพดี หาซื้อได้ในสกินแคร์กลุ่ม Hydrating นั่นเอง
สิ่งที่ควรวัง
ไม่ควรปล่อยให้ผิวขาดเซราไมด์ โดยเฉพาะสาวผิวแห้ง จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และป้องกันการเกิดริ้วรอยได้
8.AHA : Alpha Hydroxy Acid (AHA)
กรดที่สกัดจากผลไม้ธรรมชาติ ฉายา “ตัวช่วยชะลอริ้วรอย”
ประโยชน์
เด่นมากเรื่องการผลัดเซลล์ผิว เสริมความแข็งแรง สร้างความยืดหยุ่นให้ผิว และแก้ปัญหาจุดด่างดำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ให้เรียบเนียนดูกระจ่างใสขึ้น พบบ่อยในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
สิ่งที่ควรระวัง
หากใช้ AHA ที่เข้มข้นสูง(เกินไป) อาจจะทำให้ผิวระคายเคือง และไวต่อแสง ควรทาครีมกันแดดควบคู่ด้วย
9.Vitamin E หรือ Tocopherol
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อผิว ละลายได้ในน้ำมัน จึงมีความเข้มข้นสูง เป็นสารบล็อกทุกมลภาวะ ให้ผิวหน้าเฟซ
ประโยชน์
ตรวจสอบความปลอดภัย เมื่อเจอสารอนุมูลอิสระจะเข้าไปจัดการทันที ทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากอายุ ให้ผิวกลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ที่สำคัญครีมกระปุกไหนมีวิตามินอี จะช่วยใครครีมนั้นอยู่ได้นานขึ้นด้วย
สิ่งที่ควรระวัง
หากพบอาการแพ้ ให้หยุดใช้และปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
10.Vitamin C วิตามินซี
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ สกัดจากผักและผลไม้หลากหลายชนิด พบมากในส้ม สับปะรด มะขาม สตอร์เบอร์รี่ ฝรั่ง มะนาว มะเขือเทศ เป็นต้น
ประโยชน์
ลิสต์ได้ยาวมาก ตั้งแต่เสริมสร้างคอลลาเจน ต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ แก้ปัญหาฝ้า กระ รอยแดง รอยดำจากสิว ปกป้องฟื้นฟูผิวจากแสงแดด และสมานแผลให้หายเร็วขึ้นด้วย ไม่ว่าจะทาน หรือ ทา ครบมากเรื่องผิวเด็ก
สิ่งที่ควรระวัง
ไม่ควรใช้วิตามินซี ร่วมกับครีมที่มีส่วนผสมหลักเป็นคอลลาเจน เพราะจะทำให้ผลิตภัณฑ์จับตัวเป็นก้อนบนผิว ก็คือไม่ซึมลงผิวนั่นเอง
ใครที่รู้สึกว่าช่วงนี้ผิวหน้าเริ่ม ผิวหน้าโทรม หมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส ผิวแห้งกร้าน มีริ้วรอยบนใบหน้า ทำงาน จนไม่มีเวลาดูแลผิวหน้า พักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวขาดการบำรุง แต่ไม่รู้ว่าจะใช้ตัวไหนดี ขอแนะนำ เมรามิส Meramyst (Meramyst white Tharapy Facial Day Cream + Meramyst white Tharapy Facial Night Cream) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับการบำรุงผิว เพราะ มีส่วนผสมที่รวบรวมมาครบจบในเซตผลิตภัทณ์บำรุงที่ดีต่อผิวหน้า พร้อมให้ผิวหน้า ได้ออกไปเผชิญสิ่งต่างๆ ภายนอกได้อย่างมั่นใจ
อ้างอิง
